รวมเทคนิคดูแลแผลเบาหวานที่เท้า แผลดี ไม่มีอาการแทรกซ้อน

10

หนึ่งในโรคประจำตัวยอดฮิตที่พบได้บ่อยในคนไทยนั่นก็คือ ‘โรคเบาหวาน’ ซึ่งภาวะแทรกซ้อนที่จะตามมาในโรคนี้ก็คือแผลเรื้อรังต่างๆ ซึ่งก็อาจจะเป็นแผลเบาหวานที่เท้าได้ถ้าหากดูแลรักษาความสะอาดได้ไม่ดีพอ ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นอาจจะมีระบบประสาทและหลอดเลือดที่ทำงานผิดปกติได้มากกว่าคนทั่วไป ปลายมือหรือปลายเท้าอาจจะรู้สึกชาได้ง่าย และเมื่อเกิดแผลแล้วเลือดไปไหลเวียนไม่เพียงพอก็อาจจะทำให้แผลหายได้ช้า ซึ่งแผลเบาหวานที่เท้าก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการลุกลามจนอาจจะทำให้ต้องสูญเสียขาหรือเท้าไปเลยก็ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นจะมีวิธีการดูแลแผลเบาหวานที่เท้าอย่างไรบ้าง บทความนี้มีข้อมูลดีๆ มาฝาก

แผลเบาหวานที่เท้า

การรักษาความสะอาด

ขึ้นชื่อว่าเป็นภาวะแผลเบาหวานที่เท้าแล้วนั้น การรักษาความสะอาดคือสิ่งสำคัญที่สุด แนะนำว่าให้ดูแลทำความสะอาดแผลให้แห้งเสมอ อย่าปล่อยให้แผลชื้น ทำความสะอาดด้วยสบู่ น้ำอุ่น หรือน้ำเกลืออย่างน้อยๆ วันละ 2-4 ครั้ง จากนั้นซับแผลเบาหวานที่เท้าให้แห้ง นอกจากนี้แนะนำว่าอย่าใช้แอลกอฮอล์ในการทำความสะอาดแผลเป็นอันขาด เนื่องจากมีส่วนเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อแผลเบาหวานที่เท้าและเกิดการลุกลามตามมาในภายหลังนั่นเอง

ปิดแผล

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการดูแลแผลเบาหวานที่เท้านั่นก็คือให้ปิดแผลเอาไว้อย่างมิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้า ป้องกันสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละออง หากป้องกันไม่ให้แผลชื้นจากการโดนน้ำได้ก็จะช่วยให้แผลเบาหวานที่เท้าหายเร็วมากขึ้น ลดการลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ ได้อีกด้วย

สังเกตลักษณะของแผล

นอกจากการดูแลเรื่องความสะอาดและป้องกันไม่ให้แผลโดนน้ำหรือฝุ่นละอองแล้ว อีกหนึ่งวิธีการดูแลแผลเบาหวานที่เท้านั่นก็คือการหมั่นสังเกตลักษณะของแผลเบาหวานที่เท้าในแต่ละวันว่าเป็นอย่างไร มีหนอง มีอาการบวมแดงหรือไม่ เพราะถ้าหากเป็นเช่นนั้นแล้วโอกาสที่แผลเบาหวานที่เท้าจะติดเชื้อก็มีได้สูง แนะนำว่าให้รีบไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดจะดีกว่า

แผลกดทับก็สำคัญ

หากเป็นแผลเบาหวานที่เท้าแล้วนั้น ถ้าหากเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่นอนติดเตียงก็แนะนำว่าให้ญาติระมัดระวังเรื่องของแผลกดทับมากเป็นพิเศษ หมั่นพลิกตัวอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยๆ ไม่ควรปล่อยให้แผลเบาหวานที่เท้าถูกกดทับนานกว่า 2 ชั่วโมง ส่วนการดูแลก็เหมือนกับที่ได้เกริ่นไปแล้วในข้างต้น หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำและชื้น ทำความสะอาดแล้วซับแผลให้แห้ง ปิดแผลเอาไว้เพื่อป้องกันความชื้นและฝุ่นละออง

ภาวะแผลเบาหวานที่เท้านั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ป่วยเบาหวานเองไม่ควรมองข้าม หมั่นสังเกตตัวเองอยู่เรื่อยๆ ว่าที่เท้ามีรอยบวมแดง เกิดผื่นคันที่เท้าหรือบริเวณซอกนิ้วหรือไม่ ทำความสะอาดเท้าให้ดี เช็ดเท้าให้แห้ง ถ้าหากผิวแห้งก็ให้หาวาสลีนหรือโลชันมาทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการเสียดสีจนทำให้เกิดแผลที่เท้าได้นั่นเอง