เคาน์เตอร์ห้องครัว เลือกให้ตอบโจทย์จึงไม่ใช่เรื่องยาก

98

ห้องครัวเป็นห้องที่สำคัญต่อบ้านทุกหลัง เพราะเป็นที่ที่ใช้ในการเตรียมอาหาร ประกอบอาหาร และรับประทานอาหาร ดังนั้นการเลือกเคาน์เตอร์ห้องครัวจึงมีความสำคัญมาก เพราะเคาน์เตอร์ห้องครัวเป็นพื้นที่หลักที่ใช้ในการใช้งานต่างๆ เหล่านี้

เคาน์เตอร์ห้องครัว

เคาน์เตอร์ห้องครัวมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ วัสดุ และราคา ดังนั้นการเลือกเคาน์เตอร์ห้องครัวให้ตอบโจทย์จึงไม่ใช่เรื่องง่าย บทความนี้จะช่วยคุณในการพิจารณาปัจจัยต่างๆ ในการเลือกเคาน์เตอร์ห้องครัว เพื่อให้ได้เคาน์เตอร์ที่ใช้งานได้สะดวก สวยงาม และเข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้าน

ประเภทของเคาน์เตอร์ห้องครัว

เคาน์เตอร์ห้องครัวแบบลอย

เคาน์เตอร์แบบลอย คือ เคาน์เตอร์ห้องครัวที่ติดตั้งกับผนัง ไม่ได้ฝังลงไปกับพื้น มีลักษณะเป็นโครงสร้างเหล็กหรือไม้ วางบนท็อปเคาน์เตอร์ ซึ่งท็อปเคาน์เตอร์สามารถทำจากวัสดุได้หลากหลาย เช่น ไม้ หิน กระเบื้อง สแตนเลส เป็นต้น

ข้อดีของเคาน์เตอร์ครัวแบบลอย

  • น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่าย
  • ติดตั้งง่าย
  • ประหยัดพื้นที่
  • ทำความสะอาดง่าย

เคาน์เตอร์ห้องครัวแบบลอยเหมาะสำหรับห้องครัวที่มีพื้นที่จำกัด เพราะสามารถวางเคาน์เตอร์ได้แม้พื้นที่แคบๆ นอกจากนี้ เคาน์เตอร์ห้องครัวแบบลอยยังเหมาะสำหรับห้องครัวที่มีการใช้งานไม่บ่อยนัก เพราะโครงสร้างของเคาน์เตอร์อาจไม่แข็งแรงเท่าเคาน์เตอร์แบบฝัง

เคาน์เตอร์ห้องครัวแบบฝัง

เคาน์เตอร์แบบฝัง คือ เคาน์เตอร์ห้องครัวที่ฝังลงไปกับพื้น มีลักษณะเป็นโครงสร้างเหล็กหรือไม้ที่ฝังลงไปกับพื้น ด้านบนเป็นท็อปเคาน์เตอร์ ซึ่งท็อปเคาน์เตอร์สามารถทำจากวัสดุได้หลากหลาย เช่น ไม้ หิน กระเบื้อง สแตนเลส เป็นต้น

ข้อดีของเคาน์เตอร์ครัวแบฝัง

  • แข็งแรงทนทาน
  • ดูสวยงามและหรูหรา
  • ทำความสะอาดง่าย

เคาน์เตอร์ห้องครัวแบบฝังเหมาะสำหรับห้องครัวที่มีพื้นที่กว้างขวาง เพราะสามารถวางเคาน์เตอร์ได้เต็มพื้นที่ นอกจากนี้ เคาน์เตอร์แบบฝังยังเหมาะสำหรับห้องครัวที่มีการใช้งานบ่อยครั้ง เพราะโครงสร้างของเคาน์เตอร์แข็งแรงทนทาน

เคล็ดลับการเลือกเคาน์เตอร์ห้องครัว

  • เลือกวัสดุที่เหมาะสม วัสดุที่ใช้ทำเคาน์เตอร์ห้องครัวมีให้เลือกหลากหลาย เช่น ไม้ หิน กระเบื้อง สแตนเลส เป็นต้น ควรเลือกวัสดุที่เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณ
    • ไม้ : วัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สวยงาม คลาสสิก แต่ต้องดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ
    • หิน : วัสดุที่แข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย แต่ราคาสูง
    • กระเบื้อง : วัสดุที่ราคาไม่แพง ดูแลรักษาง่าย แต่อาจไม่แข็งแรงเท่าหิน
    • สแตนเลส : วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย แต่อาจดูไม่สวยงามเท่าวัสดุอื่นๆ
  • เลือกขนาดที่เหมาะสม ควรวัดขนาดพื้นที่ในห้องครัวก่อน เพื่อเลือกเคาน์เตอร์ที่มีขนาดเหมาะสม ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป
  • เลือกฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ ควรพิจารณาถึงการใช้งานในห้องครัวว่าต้องการทำอะไรบ้าง เช่น เตรียมอาหาร ประกอบอาหาร ล้างจาน หรือรับประทานอาหาร  เพื่อเลือกเคาน์เตอร์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์
  • เลือกสไตล์ที่เข้ากับบ้าน ควรเลือกเคาน์เตอร์ที่มีสไตล์เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านโดยรวม

การเลือกเคาน์เตอร์ห้องครัวให้ตอบโจทย์ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น เพื่อให้ได้เคาน์เตอร์ที่ใช้งานได้สะดวก สวยงาม และเข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้าน